TRUE GRIT (2010) MOVIE REVIEW: TRUE GRIT

True Grit (2010) Movie Review: True Grit

True Grit (2010) Movie Review: True Grit

Blog Article

รีวิวหนัง True Grit (2010) ยอดคนจริง


True-Grit-2010-Movie-Review-True-Grit

ข้อมูลเกี่ยวกับหนัง


ประเภทของภาพยนตร์ : ดราม่า / ประวัติศาสตร์


กำหนดฉายในประเทศไทย : 24 กุมภาพันธ์ 2554


ผู้กำกับ : โจเอล โคเอน, อีธาน โคเอน


นักแสดงนำโดย : เจฟฟ์ บริดเจส ,แมตต์ เดมอน , จอช โบรลิน ,แบร์รี่ เปปเปอร์,เฮลีย์ สเตนเฟลด์


 

เรื่องย่อ : 


เล่าเรื่องราวที่เกิดขึ้นระหว่างการเดินทางไปฟอร์ตสมิธ รัฐอาร์คันซอ พ่อของแมตตี้ รอสส์ เด็กหญิงวัย 14 ปี ถูกสังหารโดยทอม ชานีย์ คนงานรับจ้าง แมตตี้ถูกส่งไปรับศพพ่อของเธอ แต่กลับพบว่าชานีย์หลบหนีไปพร้อมกับเน็ด เปปเปอร์ ผู้โชคดี และพวกพ้องของเขาไปยังดินแดนอินเดียนแดง ซึ่งอยู่นอกเขตอำนาจของกฎหมายท้องถิ่นและรัฐอาร์คันซอ ด้วยความมุ่งมั่นที่จะล้างแค้นให้พ่อของเธอ แมตตี้สอบถามเกี่ยวกับการจ้างรองนายอำเภอสหรัฐ นายอำเภอให้คำแนะนำสามข้อ และเธอเลือกจ้างรูสเตอร์ ค็อกเบิร์น ผู้ที่มีชื่อเสียงว่า "ใจร้ายที่สุด" ดูหนังไทย

ในตอนแรก ค็อกเบิร์นปฏิเสธข้อเสนอของแมตตี้ เนื่องจากสงสัยในความกล้าหาญและความสามารถทางการเงินของเธอ แต่แมตตี้พิสูจน์ตัวเองด้วยการหาเงินดาวน์ผ่านการเจรจาซื้อขายม้าอย่างชาญฉลาดกับพ่อค้าในฟอร์ตสมิธที่เคยติดต่อกับพ่อของเธอ

ในขณะเดียวกัน เจ้าหน้าที่เท็กซัส เรนเจอร์ ลาเบิฟ เดินทางมาถึงฟอร์ตสมิธ โดยเขาได้ตามล่าชานีย์มานานกว่า 1 ปีในข้อหาสังหารวุฒิสมาชิกรัฐเท็กซัส ลาเบิฟเสนอให้ร่วมมือกับค็อกเบิร์นในการตามจับชานีย์ แต่แมตตี้ปฏิเสธข้อเสนอ เพราะต้องการให้ชานีย์ถูกลงโทษในอาร์คันซอเพื่อความยุติธรรมแก่พ่อของเธอโดยเฉพาะ

แม้ว่าแมตตี้ยืนยันที่จะร่วมเดินทางกับค็อกเบิร์น เขากลับออกเดินทางพร้อมลาเบิฟในเช้าวันรุ่งขึ้นโดยไม่มีเธอ อย่างไรก็ตาม แมตตี้สามารถตามพวกเขาทันที่ท่าเรือข้ามฟากแม่น้ำ ด้วยการข้ามน้ำบนหลังม้าเพื่อแสดงความมุ่งมั่น ลาเบิฟไม่พอใจกับการกระทำนี้และตบเธอ แต่ค็อกเบิร์นขัดขวางโดยชักอาวุธออกมา ทำให้เกิดความขัดแย้งระหว่างทั้งสอง ซึ่งในที่สุดนำไปสู่การยกเลิกข้อตกลงของพวกเขา ลาเบิฟจึงแยกตัวออกไปตามล่าชานีย์เพียงลำพัง

ในระหว่างการเดินทาง ค็อกเบิร์นและแมตตี้ได้พบกับคนนอกกฎหมายสองคน ควินซีและมูน ที่ซ่อนตัวอยู่ในกระท่อมร้าง ค็อกเบิร์นบังคับให้พวกเขายอมจำนนด้วยการยิงและทำร้ายมูน เมื่อถูกกดดัน มูนเปิดเผยข้อมูลเกี่ยวกับการมาของแก๊งเปปเปอร์ในคืนนั้นเพื่อรับเสบียง ควินซีโกรธจัดที่มูนให้ข้อมูล จึงแทงเขาและถูกค็อกเบิร์นยิงเสียชีวิต มูนซึ่งอยู่ในสภาพใกล้ตายยืนยันข้อมูลเกี่ยวกับเปปเปอร์ก่อนจะสิ้นใจ

เรื่องราวของแมตตี้และค็อกเบิร์นดำเนินต่อไป ท่ามกลางความท้าทายและอันตรายที่พวกเขาต้องเผชิญในการตามล่าผู้กระทำผิดและทวงคืนความยุติธรรมให้กับพ่อของเธอ

Cogburn และ Mattie วางแผนซุ่มโจมตีกลุ่มคนร้าย แต่ LaBoeuf มาถึงก่อนและเผชิญหน้ากับพวกเขา การเผชิญหน้ากลายเป็นเหตุยิงกัน โดย Cogburn ยิงสมาชิกกลุ่มสองคน แต่พลาดไปโดน LaBoeuf โดยไม่ได้ตั้งใจ แม้ Pepper จะหนีไปได้ แต่ LaBoeuf ได้รับบาดเจ็บหนัก จึงกลับมาร่วมกับ Cogburn และ Mattie อีกครั้ง

เช้าวันรุ่งขึ้น ทั้งสามคนออกเดินทางตามหา Chaney และกลุ่มของ Pepper ซึ่ง Cogburn เชื่อว่ากำลังซ่อนตัวอยู่ใน Winding Stair Mountains อย่างไรก็ตาม การเดินทางเต็มไปด้วยความยากลำบาก Cogburn เริ่มดื่มหนักจนเกิดความขัดแย้งกับ LaBoeuf อีกครั้ง หลายวันผ่านไปโดยไม่พบร่องรอยของ Chaney หรือกลุ่มคนร้าย Cogburn ซึ่งเมาแล้วประกาศว่าการตามล่าควรยุติ และลาเบิฟตัดสินใจแยกตัวกลับเท็กซัส แมตตี้เสียใจที่การจ้าง Cogburn ดูเหมือนจะผิดพลาด และเธอคืนดีกับ LaBoeuf โดยต่างยอมรับว่าตัดสินใจกันผิด

ระหว่างที่แมตตี้กำลังตักน้ำจากลำธาร เธอเผชิญหน้ากับ Chaney โดยบังเอิญ แม้เธอจะยิงเขาจนบาดเจ็บ แต่ปืนลูกโม่กลับลั่น ทำให้ Chaney จับตัวเธอไว้เป็นตัวประกัน เน็ด เปปเปอร์พยายามต่อรองกับ Cogburn โดยขู่ว่าจะฆ่าแมตตี้ แต่ในที่สุดเปปเปอร์และกลุ่มของเขาก็จากไป โดยสั่งให้ Chaney เฝ้าเธอไว้และห้ามทำร้ายเธอ ขณะรอเปปเปอร์ Chaney ซึ่งรู้สึกว่าอาจถูกทิ้งให้ถูกจับ พยายามฆ่าแมตตี้ แต่ LaBoeuf มาถึงทันเวลา ทำให้ Chaney หมดสติ

LaBoeuf เผยว่าเขาและ Cogburn ได้กลับมารวมตัวกันไม่นานหลังจากเหตุการณ์ยิงกันครั้งแรก เขาต้องช่วยแมตตี้ในขณะที่ Cogburn สกัดกั้นกลุ่มคนร้ายด้วยการเผชิญหน้าอย่างดุเดือด Cogburn สังหารสมาชิกแก๊งไปสองคน และบังคับให้คนที่สามหลบหนี แต่ม้าของเขาถูกยิงจนตกลงมา ทำให้เขาติดอยู่ Pepper ซึ่งได้รับบาดเจ็บเตรียมจะสังหาร Cogburn แต่ LaBoeuf ยิง Pepper จากระยะไกลด้วยความแม่นยำ

Chaney ฟื้นคืนสติและทำให้ LaBoeuf สลบ แมตตี้จึงใช้ปืนไรเฟิลยิง Chaney ตาย แต่แรงดีดของปืนทำให้เธอตกลงไปในหลุมและถูกงูหางกระดิ่งกัด Cogburn รีบมาช่วยเธอ และหลังจากขอบคุณ LaBoeuf เขาสัญญาว่าจะส่งความช่วยเหลือไปให้ ก่อนพา Mattie ออกเดินทางเพื่อหาหมอ เมื่อม้าหมดแรง Cogburn แบก Mattie ที่หมดสติไปจนถึงที่หมาย แม้เขาจะอยู่จนแน่ใจว่าเธอปลอดภัย แต่ก็จากไปก่อนที่เธอจะฟื้นขึ้นมา แขนของเธอถูกตัดในที่สุดจากพิษงู

ยี่สิบห้าปีต่อมา Mattie ได้รับจดหมายจาก Cogburn ที่เชิญเธอไปชมการแสดง Wild West ที่เขามีส่วนร่วม สามวันก่อนที่เธอจะไปถึง Cogburn เสียชีวิต แมตตี้นำร่างของเขามาฝังในสุสานครอบครัว และไตร่ตรองถึงการตัดสินใจในชีวิตของเธอ รวมถึงการที่เธอเลือกที่จะไม่แต่งงาน และความหวังที่จะได้ยินข่าวจาก LaBoeuf หากเขายังมีชีวิตอยู่

 

ความรู้สึกหลังจากชมภาพยนตร์ : 


หลังจากชมภาพยนตร์เรื่องนี้ ความรู้สึกของฉันเต็มไปด้วยความหลากหลาย ทั้งตื่นเต้น ซาบซึ้ง และหดหู่ใจในบางช่วงเวลา ตัวเรื่องเล่าที่ดำเนินไปอย่างเข้มข้น สร้างแรงดึงดูดให้ติดตามตั้งแต่ต้นจนจบ การพัฒนาของตัวละคร โดยเฉพาะ Mattie Ross และ Rooster Cogburn ทำให้ผู้ชมรู้สึกเชื่อมโยงกับความกล้าหาญ ความมุ่งมั่น และความเจ็บปวดของพวกเขาอย่างลึกซึ้ง

Mattie Ross เด็กสาววัย 14 ปี สร้างความประทับใจด้วยความเด็ดเดี่ยวและฉลาดในการเอาตัวรอด เธอแสดงให้เห็นถึงความกล้าหาญเกินวัยที่ผลักดันเธอให้ก้าวผ่านสถานการณ์ที่คนทั่วไปอาจยอมแพ้ การที่เธอยืนหยัดต่อสู้เพื่อความยุติธรรมให้กับพ่อของเธอ ไม่เพียงแต่ทำให้เรื่องราวเข้มข้นขึ้น แต่ยังสะท้อนถึงพลังของความรักในครอบครัวที่เธอยึดมั่นอย่างไม่หวั่นไหว mvhd24.com

Rooster Cogburn เป็นตัวละครที่แสดงให้เห็นมิติความซับซ้อนของมนุษย์ จากภายนอกเขาอาจดูหยาบกระด้างและไร้ความเมตตา แต่ลึกลงไปกลับเต็มไปด้วยจิตใจที่อ่อนโยนและความรับผิดชอบ การเสียสละและความตั้งใจที่จะช่วยเหลือ Mattie ในช่วงเวลาที่สำคัญที่สุด สะท้อนให้เห็นถึงความสัมพันธ์ที่ก่อตัวขึ้นระหว่างพวกเขาในฐานะพันธมิตรที่ไม่ธรรมดา

อีกแง่มุมหนึ่งที่น่าจดจำคือการเล่าเรื่องที่สะท้อนถึงความเป็นจริงของชีวิต ความสูญเสียและผลกระทบที่เกิดขึ้นกับตัวละครแต่ละตัวช่วยเตือนให้เราเห็นถึงความไม่แน่นอนในชีวิต และการตัดสินใจของพวกเขาทำให้ฉุกคิดถึงเรื่องของศีลธรรม ความยุติธรรม และความหมายของการใช้ชีวิตอย่างมีคุณค่า

องค์ประกอบภาพยนตร์ ทั้งฉากและบรรยากาศในเรื่องสร้างความรู้สึกดื่มด่ำ บรรยากาศของดินแดนอันโหดร้ายในยุคสมัยนั้นได้รับการถ่ายทอดอย่างละเอียด ทำให้รู้สึกเหมือนได้เดินทางร่วมไปกับตัวละคร ฉากแอ็กชันที่เข้มข้นผสมผสานกับช่วงเวลาที่เงียบสงบช่วยให้เกิดสมดุลระหว่างความตื่นเต้นและความสะเทือนอารมณ์

โดยรวมแล้ว หลังจากชมภาพยนตร์เรื่องนี้ ฉันรู้สึกได้รับบทเรียนชีวิตที่ล้ำค่าและแรงบันดาลใจจากความกล้าหาญของตัวละคร ความรู้สึกอบอุ่นใจจากการเสียสละและการต่อสู้เพื่อความถูกต้อง รวมถึงการเตือนใจว่าในโลกที่โหดร้ายยังคงมีแสงสว่างของความหวังและความเมตตาเสมอ หากคุณกำลังมองหาภาพยนตร์ที่ทรงพลังทั้งด้านเนื้อหาและอารมณ์ นี่คือเรื่องที่ไม่ควรพลาดอย่างยิ่ง

#ดูหนังไทย #TrueGrit #ยอดคนจริง

 
กลับด้านบน

Report this page